นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะดีดขึ้นได้ต่อจากเมื่อวานตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ที่รีบาวด์ขึ้นมา และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาบวกตามกัน คลายกังวลสงครามการค้าชั่วคราว หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯชะลอการขึ้นภาษีกับประเทศที่ไม่ได้ตอบโต้ 90 วัน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย เป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทย ขณะที่ปัจจัยความเสี่ยงด้านการเร่งตัวของเงินเฟ้อในสหรัฐก็คลายกังวลตามไปด้วยจากการชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าออกไป ทำให้แรงกดดันดังกล่าวลดลง และนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้งหนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้น
โดยให้แนวต้าน 1,110-1,120 จุด แนวรับ 1,060 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (9 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,608.45 จุด เพิ่มขึ้น 2,962.86 จุด หรือ +7.87%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,456.90 จุด เพิ่มขึ้น 474.13 จุด หรือ +9.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,124.97 จุด เพิ่มขึ้น 1,857.06 จุด หรือ +12.16%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 32,321.21 จุด เพิ่มขึ้น 607.18 จุด หรือ +1.91% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 20,810.43 จุด เพิ่มขึ้น 545.94 จุด หรือ +2.69% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,227.84 จุด เพิ่มขึ้น 41.03 จุด หรือ +1.27%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 เม.ย.) 1,088.18 จุด เพิ่มขึ้น 13.59 จุด (+1.26%) มูลค่าซื้อขาย 50,942.48 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (9 เม.ย.) 431.09 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. (9 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 2.77 ดอลลาร์ หรือ 4.65% ปิดที่ 62.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 เม.ย.) 3.52 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.17 แข็งค่าจากวานนี้ตามภูมิภาค คลายกังวลหลัง "ทรัมป์" ชะลอมาตรการภาษี
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศจะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ลงเหลือแค่ 10% เป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดช่องให้มีการเจรจาการค้ากับประเทศเหล่านี้ จากเดิมที่เรียกเก็บบางประเทศกว่า 40%
- สงครามการค้าลุกลาม 'จีน' ตอบโต้สหรัฐแรง ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐจาก 34% เป็น 84% มีผล 10 เม.ย. ขึ้นบัญชีดำบริษัทสหรัฐเพิ่ม หลังถูกทรัมป์ตั้งกำแพงภาษี 104% โฆษกจีนย้ำ "สู้จนถึงที่สุด" ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงหนัก โดยเฉพาะไต้หวันดิ่ง 5.79% เกาหลีใต้เข้าสู่ภาวะตลาดหมี ส่วนจีนปิดบวกได้ สวนตลาด ตลาดพันธบัตรสหรัฐถูกเทขายแรง นักเศรษฐศาสตร์หวั่นการเติบโตของจีนลดลง 1-2% กระทบเศรษฐกิจโลก
- "อัสสเดช" ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยรายได้ บจ.จากการส่งออกไปสหรัฐฯ มีเพียง 2% คิดเป็นเงินประมาณ 3.6 แสนล้านบาท ของรายได้รวมทั้งหมดของ บจ.ปี 67 ซึ่งอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท ส่วนมาตรการ Ceiling & Floor บวก/ลบ 15% และห้ามขายชอร์ตชั่วคราว เป็นการนำมาใช้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาด แต่จะต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน พร้อมย้ำ "วายุภักษ์" ไม่ได้ขายหุ้นออกมา ด้าน "ศุภวุฒิ" ย้ำต้องใช้เวลานานนับเดือนเพื่อนั่งถกกับสหรัฐฯ กว่าจะได้ข้อยุติ
- SCB EIC แบงก์ไทยพาณิชย์ (SCB) เผยการขึ้นภาษีของทรัมป์ส่งผลกระทบเศรษฐกิจโลกและไทย โดยปรับประมาณการ GDP โลกปีนี้เติบโตเพียง 2.2% และเศรษฐกิจไทยเหลือเพียง 1.4-1.5% พร้อมคาดการณ์กนง.ลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้
- หอการค้าไทยย้ำรัฐ-เอกชนหารือรับมือทรัมป์ ชี้แนวทางต้องนำเข้าสินค้าเกษตรเพื่อลดขาดดุลการค้า สร้างสมดุลการค้า 2 ประเทศ "หอการค้าไทยในจีน" ชี้สหรัฐ-จีนปิดช่องเจรจาอาจลามเป็นปัญหาใหญ่ แนะไทยใช้โอกาสปรับโครงสร้างการผลิต อุตฯ แผงวงจรพิมพ์ หวั่นกระทบลงทุนย้ายฐานไป ประเทศคู่แข่ง "สมาคมอาหารสัตว์" เสนอนำเข้า 3 วัตถุดิบเพิ่มกว่า 9 หมื่นล้านบาท
- "อิ๊งค์" มั่นใจทีมไทยแลนด์เจรจาภาษีทรัมป์ทำเต็มที่ ขุนคลังยอมรับอ่วมหนักกว่าวิกฤตโควิด-19 แจงไทยเตรียมแผน 2 รับมือ เล็งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ จ่อขยับเพดานหนี้สาธารณะเปิดช่องกู้เพื่อลงทุน สภาถกสนั่น "ไหม" ขีดเส้นกู้เงินเยียวยาใช้ให้ถูกช่อง อย่ากู้ไปแจกเทน้ำลงบ่อทราย ตีเช็คเปล่าให้ตัวเอง "ลูกเนวิน" บอกต่อให้เทวดาก็คุยกับทรัมป์ไม่รู้เรื่อง "จุลพันธ์" แจงแผนเทงบ 5 หมื่นล้านใส่เอ็กซิมแบงก์ อุ้มส่งออก เด็กลุงตู่หนุน พท.ส่งผู้มีบารมีเป็นล็อบยี้ยิสต์
*หุ้นเด่นวันนี้
- AMATA (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 31 บาท ประเมินราคาหุ้น Oversold มีโอกาส Rebound ประเมินแนวรับ 11.9 บาท / แนวต้าน 12.7-13.2 บาท กรณี Rebound ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินแนวต้านถัดไป +/- 14.1 บาท (Stop loss 11.2 บาท) รับ Sentiment บวกกลุ่มนิคมฯจากล่าสุดสหรัฐเลื่อนการใช้อัตราภาษีตอบโต้กับทุกประเทศยกเว้น "จีน" ออกไป 90 วัน ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจย้ายฐานการผลิตมายังนิคมฯทั้งในไทย-เวียดนาม Valuation ถูกระดับ Crisis PBV 0.64 เท่า ต่ำสุดตั้งแต่ IPO (และต่ำกว่าระดับ Hamburger Crisis ที่ 0.67 เท่า)
- BDMS (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31.00 บาท เก็บหุ้น Defensive ในช่วงตลาดผันผวน ผู้บริหารคาดการณ์รายได้ครึ่งปีแรกโต 7-8% คาดอัตรากำไร EBITDA คงที่ 24-25% ซึ่งใน 2 เดือนปี 68 รายได้โตแข็งแกร่งมากกว่า 7%YoY จากรายได้ผู้ป่วยไทยเพิ่ม 5%YoY และต่างชาติเพิ่มกว่า 10%YoY คาดกำไรปี 68 โต 7%YoY ดีกว่ากลุ่มที่โต 5% ปันผลสูงที่ 3.4% ช่วยจำกัด Downside พร้อมคาดได้ประโยชน์จากการ Reweight รวมถึงเม็ดเงินใหม่จากการเตรียมเปิดขายกอง TESGX ช่วง พ.ค.-มิ.ย.68
- AURA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำเหนือ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วยสร้างกำไรจากส่วนต่างธุรกิจ gold trading โดยการทยอยปรับค่ากำเหน็จขึ้นในครึ่งปีหลังหนุนโตต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสาขาเป็น 644 สาขา และขยายพอร์ตสินเชื่อ gold finance เป็น 6,500 ล้านบาท (โต 30%) ตั้งเป้ากำไรโต 20-30% มีแผนขยายเพดานหนี้เป็น 2.5 เท่า ออกหุ้นกู้ 2-3 พันล้านบาท และขอวงเงินกู้ syndicate loan อีก 3-4พันล้านบาทที่คาดเห็นผลในไตรมาส 2/68 นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากมีสัดส่วนเงินกู้อัตราลอยตัวถึง 98%