ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวแข็งแกร่ง
ณ เวลา 01.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,684.99 จุด บวก 105.91 จุด หรือ 0.25%
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังมีการขยายตัวที่ดี ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อกำลังไปสู่เป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะรอคอยความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่เฟดจะดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
"ทำเนียบขาวอยู่ในกระบวนการที่จะบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญใน 4 ด้าน ได้แก่ การค้า ผู้อพยพเข้าประเทศ นโยบายการคลัง และกฎระเบียบ โดยผลกระทบสุทธิของการเปลี่ยนแปลงในนโยบายดังกล่าวจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายการเงิน"
"เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงต่อการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่เกิดขึ้น เฟดจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ โดยเฟดจะเฝ้ารอสำหรับความชัดเจนมากขึ้น โดยไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายไว้ล่วงหน้า และจุดยืนนโยบายของเราในขณะนี้สามารถรับมือกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เรากำลังเผชิญอยู่ในการยึดมั่นพันธกรณีของเราในการรักษาเสถียรภาพของราคาและการทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ" นายพาวเวลกล่าวในการประชุมว่าด้วยนโยบายการเงินสหรัฐที่มหาวิทยาลัยชิคาโกในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 300 จุดในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 159,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.0%
รายงานการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางความพยายามของกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) ของนายอีลอน มัสก์ ในการปลดพนักงานของรัฐ และลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.4% ในไตรมาส 1/2568