ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 900 จุด หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 3,000 จุดวานนี้ แม้ว่านักลงทุนบางส่วนคลายความกังวล หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เป็นเวลา 90 วัน แต่หลายฝ่ายก็ออกมาเตือนว่าตลาดยังไม่พ้นจากปัญหา
ณ เวลา 21.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,670.21 จุด ลบ 938.24 จุด หรือ 2.31%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากแรงขายทำกำไร หลังดัชนีพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์วานนี้
นายไมเคิล กาเปน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า "การขึ้นภาษีต่อจีน แต่ชะลอในหลายประเทศ ทำให้อัตราภาษีศุลกากรที่แท้จริงอยู่ที่ 23% ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยการชะลอการขึ้นภาษีมีส่วนช่วยระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ลดความไม่แน่นอนในตลาด"
ด้านนายเจฟฟรีย์ โรช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก LPL Financial เตือนว่า ตลาดยังคงมีภาวะปั่นป่วนรออยู่ข้างหน้า
"ความผันผวนในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง แม้มีการระงับภาษี 90 วันสำหรับประเทศที่ไม่ตอบโต้สหรัฐ ขณะที่ข้อมูลในช่วงต้นปีนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัว โดยไม่คำนึงเกี่ยวกับนโยบายการค้า" นายโรชกล่าว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนมี.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.1% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.0% จากระดับ 3.1% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.2% ในเดือนก.พ.