ดอลลาร์อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด
ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.40% สู่ระดับ 103.65 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.73% สู่ระดับ 1.086 เทียบยูโร และร่วงลง 0.57% สู่ระดับ 147.10 เยน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 159,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.0%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่ภาครัฐมีการจ้างงาน 11,000 ตำแหน่ง
รายงานการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางความพยายามของกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) ของนายอีลอน มัสก์ ในการปลดพนักงานของรัฐ และลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมวานนี้ (6 มี.ค.) ว่า การปลดพนักงานในกระทรวงต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรัฐมนตรีที่ควบคุมกระทรวงนั้น ๆ ไม่ใช่อยู่ที่การตัดสินใจของนายอีลอน มัสก์ หรือกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE)
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาได้กำชับให้บรรดาคณะรัฐมนตรีให้ความร่วมมือกับ DOGE เกี่ยวกับการปรับลดค่าใช้จ่ายและจำนวนพนักงาน แต่ย้ำว่าการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการปลดพนักงานจะขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีซึ่งเป็นเจ้ากระทรวง
"เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะลดจำนวนพนักงานถึงระดับที่ควรจะเป็น แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันที่เราจะต้องรักษาพนักงานที่ดีที่สุดและมีผลิตภาพมากที่สุด"
"รัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจเกี่ยวกับพนักงานที่ทำงานในกระทรวง โดยเขาจะรู้ว่าใครควรจะอยู่ และใครควรจะไป เราพูดมาก่อนหน้านี้ว่า เราจะใช้ 'มีดผ่าตัด' ไม่ใช่ใช้ 'ขวาน'" ปธน.ทรัมป์ระบุใน Truth Social
ท่าทีของปธน.ทรัมป์ดังกล่าวถือเป็นการลดทอนอำนาจของนายมัสก์เป็นครั้งแรก หลังจากที่หลายฝ่ายซึ่งรวมถึงสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันแสดงความไม่พอใจต่อการที่นายมัสก์และ DOGE ใช้คำสั่งปลดพนักงานของรัฐจำนวนมาก จนนำไปสู่การฟ้องร้องในศาล
ทั้งนี้ DOGE ไม่มีสถานะเป็นกระทรวงแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้รับอำนาจอย่างเป็นทางการจากสภาคองเกรสใหัมีสถานะดังกล่าว โดย DOGE เป็นองค์กรชั่วคราวซึ่งมีอายุเพียง 18 เดือน และจะหมดวาระในวันที่ 4 ก.ค.2569
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มหาวิทยาลัยชิคาโกในวันนี้ในการประชุมว่าด้วยนโยบายการเงินสหรัฐ
การประชุมดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (7 มี.ค.) เวลา 12.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) เวลา 00.30 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ การกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลในวันนี้ มีขึ้นก่อนที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 18-19 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้
กฎระเบียบของเฟดระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และต.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.4% ในไตรมาส 1/2568
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 91.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนก.ค. ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนต.ค. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนสิ้นปี 2568