สถาบันผู้สำรวจอสังหาริมทรัพย์แห่งราชอาณาจักร (RICS) เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (10 เม.ย.) ว่า ตลาดบ้านในสหราชอาณาจักร (UK) ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือนมี.ค. หลังจากมาตรการลดหย่อนภาษีอากรแสตมป์ที่เคยกระตุ้นตลาดได้สิ้นสุดลง ประกอบกับความกังวลเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการซื้อบ้านลดลงอย่างมาก
ผลสำรวจของ RICS ระบุว่า ดัชนีสอบถามความสนใจจากผู้ซื้อรายใหม่ดิ่งลงสู่ระดับสุทธิ -32 ในเดือนมี.ค. จาก -16 ในเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.ย. 2566 ขณะเดียวกัน ยอดขายบ้านที่ตกลงทำสัญญาซื้อขายกันก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเช่นกัน
ส่วนดัชนีราคาบ้าน ซึ่งสะท้อนมุมมองของผู้สำรวจว่าราคาบ้านเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ +2 ในเดือนมี.ค. จาก +11 ในเดือนก.พ. นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RICS ระบุว่า เป็นที่คาดกันอยู่แล้วว่าการสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนภาษีอากรแสตมป์จะทำให้ตลาดหยุดชะงักไปชั่วคราว แต่สถานการณ์กลับดูแย่ลงไปอีกจากกระแสข่าวเชิงลบเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ถาโถมเข้ามาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
RICS ยังตั้งข้อสังเกตว่า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และมาตรการตอบโต้จากประเทศอื่น ๆ อาจยิ่งสร้างความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดเพิ่มเติมในเดือนหน้า
การชะลอตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาล UK เพิ่งปรับเกณฑ์ราคาบ้านที่ต้องเสียภาษีอากรแสตมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ผลสำรวจของ RICS นี้สอดคล้องกับข้อมูลชี้วัดอื่น ๆ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ล่าสุด รวมถึงข้อมูลจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่เผยว่า ยอดอนุมัติสินเชื่อบ้านได้ชะลอตัวลงในเดือนก.พ.
อย่างไรก็ดี แม้ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่คาดว่าราคาบ้านอาจปรับลดลงในระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่ก็ยังมองว่าแนวโน้มในอีก 1 ปีข้างหน้าโดยรวมยังคงเป็นบวก