นิโคลา วิลลิส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ กล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะทำให้เศรษฐกิจนิวซีแลนด์เผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวจากภาวะถดถอย เนื่องจากมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ความต้องการสินค้านิวซีแลนด์ในตลาดโลกทรุดตัวลง
วิลลิสยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่านิวซีแลนด์จะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากร 10% สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ แต่ความกังวลที่ใหญ่กว่านั้นคือผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศคู่ค้า โดยประเทศเหล่านี้เผชิญกับภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินค้าของนิวซีแลนด์ในตลาดโลกลดลงตามไปด้วย
เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 4/2567 จากไตรมาส 3/2567 ที่หดตัว 1.1% ขณะที่ GDP ทั้งปี 2567 ลดลง 1.1% ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าลดลง 1.4%
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยให้เหตุผลว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง พร้อมทั้งระบุว่า มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้
RBNZ คาดว่าเศรษฐกิจนิวซีแลนด์จะเริ่มฟื้นตัวในปีนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่การฟื้นตัวอาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ