ผู้นำสหภาพยุโรป (EU) มีแผนเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อประชุมสุดยอดร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ โดยยังไม่การกำหนดวันที่ชัดเจน
ข่าวความเคลื่อนไหวดังกล่าวรายงานครั้งแรกในวันนี้ (11 เม.ย.) โดยเซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ (SCMP) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชั้นนำของฮ่องกง ซึ่งอ้างอิงข้อมูลมาจากแหล่งข่าววงใน 5 ราย
การประชุมสุดยอด EU-จีน ครั้งที่แล้วจัดขึ้นที่ปักกิ่ง ดังนั้นการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นควรหมุนเวียนไปจัดใน EU อย่างไรก็ตาม สื่อรายงานว่าปธน.สี จิ้นผิง มีความลังเลที่จะเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม
ท่าทีของผู้นำจีนส่งผลให้อันโตนิโอ คอสตา ประธานคณะมนตรียุโรป (European Council) และเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ตัดสินใจเดินทางไปยังปักกิ่งเองเพื่อหารือแบบตัวต่อตัวกับผู้นำจีน ซึ่งแสดงถึงความพยายามอย่างจริงจังของ EU ในการฟื้นฟูความร่วมมือกับจีน ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง EU กับสหรัฐฯ ย่ำแย่ลง
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า จีนและ EU ตกลงที่จะร่วมมือกันสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี โดยมีองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นแกนกลาง
แถลงการณ์นี้มีขึ้นหลังจากการหารือผ่านวิดีโอเมื่อวันอังคาร (8 เม.ย.) ระหว่างหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน และมารอช เชฟโชวิช คณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยในหลายประเด็น ทั้งการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-EU และแนวทางการรับมือกรณีที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff)
หวังย้ำว่า จีนพร้อมที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งผ่านการเจรจาหารือ แต่ก็พร้อมจะต่อสู้ถึงที่สุดหากสหรัฐฯ ยังคงดึงดันที่จะดำเนินการเช่นนี้ต่อไป
หวังเน้นว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน การที่จีน-EU ร่วมกันปกป้องระบบการค้าพหุภาคีตามกฎเกณฑ์ และยึดมั่นในการเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกทางการค้า จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความแน่นอนให้กับเศรษฐกิจและการค้าโลกได้มากขึ้น
ด้านเชฟโชวิชกล่าวว่า มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการค้าระหว่างประเทศ และ EU พร้อมที่จะทำงานร่วมกับสมาชิก WTO อื่น ๆ รวมถึงจีน เพื่อให้การค้าระหว่างประเทศดำเนินไปได้อย่างปกติ